นักเตะแห่งช่วงเวลาสำคัญของทีมปีศาจแดง

อาจกล่าวได้ว่า เฟเดริโก้ มาเคด้า ที่จะย้ายไปร่วมทีมคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในวันที่ 1 กรกฏาคมนั้นไม่เคยได้แสดงฝีเท้าของตนเองอย่างเต็มที่ในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่การอำลาทีมไปของศูนย์หน้าชาวอิตาเลียนผู้นี้ก็ได้ทิ้งช่วงเวลาสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาไว้ตลอดกาล
เขาถูกส่งลงสนามด้วยวัยเพียง 17 ปีในช่วงที่ทีมปีศาจแดงตามหลังแอสตัน วิลล่า อยู่ 1-2 เมื่อเดือนเมษายน 2009 มาเคด้าจัดการซัดประตูต่อจากลูกตีเสมอของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกคว้าชัยในนาทีสุดท้ายกลับสู่เส้นทางสู่แชมป์อีกครั้ง
รวมแล้วกิโก้ลงเล่นให้กับสโมสร 35 เกม และทำประตูได้อีก 4 ลูก แต่เอาแค่เหตุการณ์ในเกมกับวิลล่าจังหวะนั้นก็ทำให้เขาเป็นที่รักของแฟนๆ ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้ว
และนี่ก็คือรายชื่อนักเตะคนอื่นๆ ที่สร้างชื่อจากเหตุการณ์สำคัญกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีก 5 คนที่เราเลือกมา…

มาร์ค โรบินส์ (พบน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, 7 มกราคม 1990)
ช่วงนั้นประธานสโมสรอย่าง มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส ยอมรับว่าเขาไม่รับประกันตำแหน่งของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าประตูของโรบินส์ในเดือนมกราคม 1990 นั้นมีส่วนสำคัญต่ออาชีพกุนซือของเขา ตอนนั้นทีมปีศาจแดงไม่ชนะเลยมาตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน แถมอันดับของทีมก็ตกลงไปอยู่ที่โซนตกชั้น ตำแหน่งผู้จัดการทีมของเฟอร์กูสันกำลังสั่นคลอนเป็นอย่างมาก จากนั้นผลผลิตจากชุดเยาวชนอย่างโรบินส์วัย 20 ปีก็มาแผลงฤทธิ์ซัดประตูชัยในเกมเอฟเอ คัพ รอบสาม กับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย เพราะหลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ตกชั้น แถมยังคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ด้วย มันเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทอง ฤดูกาลนั้นโรบินส์ยิงไปทั้งหมด 10 ประตู แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยึดตำแหน่งได้ในทีมชุดใหญ่ จนต้องย้ายไปเล่นกับนอริชในปี 1992

ลี มาร์ติน (พบคริสตัล พาเลซ, 17 พฤษภาคม 1990)
เมื่อโรบินส์เป็นคนเริ่มต้น คนที่จัดการปิดบัญชีก็คือมาร์ติน เขาทำประตูสุดท้ายของการแข่งขันเอฟเอ คัพ ปี 1990 มันเกิดขึ้นในนัดรีเพลย์ 5 วันหลังจากที่เสมอกับคริสตัล พาเลซ แบบสุดมันส์ 6 ประตูที่เวมบลีย์ แม้ชัยชนะ 1-0 ของทีมปีศาจแดงอาจจะไม่ได้สนุกตื่นเต้นนักสำหรับแฟนๆ ทีมอื่น แต่สำหรับแบ็คซ้ายอย่างลีแล้วมันก็ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นไปกว่านี้อีก แต่หลังจากนั้นด้วยอาการบาดเจ็บ และฟอร์มของ เคลย์ตัน แบล็คมอร์ ก็ทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสได้ลงเล่นอีกในปีต่อมา รวมแล้วเขาลงเล่นให้กับสโมสรไป 109 เกม ทำได้ 2 ประตู ตลอดระยะเวลา 7 ปี ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมกลาสโกว์ เซลติก ในปี 1994

ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (พบลิเวอร์พูล, 1 ธันวาคม 2002)
ฟอร์ลันกลายเป็นจอมจบสกอร์ที่สุดยอดคนหนึ่งหลังจากที่ย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปค้าแข้งที่สเปน แต่ในสมัยที่อยู่กับทีมปีศาจแดงนั้นเขามีปัญหากับการยิงประตูพอสมควร อย่างไรก็ตาม ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัยก็ได้สร้างเหตุการณ์น่าประทับใจให้กับแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่บ้าง ที่น่าจดจำที่สุดก็คือเกมเยือนลิเวอร์พูลในเดือนธันวาคม 2002 ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณการรับบอลพลาดของ เจอร์ซี่ ดูเด็ค นายทวารเจ้าถิ่นด้วย ฟอร์ลันทำได้ 2 ประตูในเกมนั้นให้ทีมบุกชนะ 2-1 ถึงถิ่นแอนฟิลด์ เป็นการยุติความพ่ายแพ้ 5 เกมติดในการบุกมาเยือนถิ่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ รวมแล้วเขาทำประตูได้ 17 ลูกภายใต้การลงเล่นให้กับเฟอร์กูสัน โดย 2 ประตูนี้ถือเป็นไฮไลท์ในการค้าแข้งที่นี่สำหรับเขา

เบน ฟอสเตอร์ (พบท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์, 1 มีนาคม 2009)
แม้ว่าสุดท้าย เบน ฟอสเตอร์ จะไม่ได้ก้าวขึ้นไปเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษอย่างที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำนายเอาไว้ แต่เหตุการณ์จากเกมนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ ปี 2009 ก็ยังติดตาตรึงใจแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เสื่อมคลาย นายทวารเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 4 นิ้วได้ศึกษาการยิงลูกจุดโทษของนักเตะไก่เดือยทองจากไอพ็อดของเขา และในการดวลเป้าชี้ขาด เขาก็เสียประตูไปแค่ลูกเดียวเท่านั้น เขาเซฟลูกยิงจาก เจมี่ โอฮาร่า ได้ จากนั้น เดวิด เบนท์ลี่ย์ ก็ยิงหลุดกรอบ และเมื่อ อันแดร์สัน ซัดประตูที่ 4 ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมปีศาจแดงก็เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ และฟอสเตอร์ก็พาตัวเองเข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรได้สำเร็จ

ไมเคิล โอเว่น (พบแมนเชสเตอร์ ซิตี้, 20 กันยายน 2009)
โอเว่นก้าวเข้ามายังถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยเป้าหมายคือการถล่มประตู หลังจากก่อนหน้าที่ทำได้ดีในการล่าตาข่ายกับสโมสรเก่าอย่างลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด และนิวคาสเซิล (ยามฟิตสมบูรณ์) แต่ตลอดระยะเวลา 3 ปีกับทีมปีศาจแดงเขามักจะถูกรบกวนด้วยอาการบาดเจ็บอยู่ตลอด อย่างไรก็ตามดาวยิงร่างเล็กรายนี้ก็ได้มีชื่อในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วยการยิงประตูชัยในนาทีที่ 96 ในเกมพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนกันยายน ปี 2009 “นี่ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในอาชีพค้าแข้งของผมเลย” ดาวซัลโวอันดับที่ 4 ของทีมชาติอังกฤษเผยหลังจากหมดเวลาการแข่งขัน “การยิงประตูชัยแบบสุดดราม่าในเกมดาร์บี้แบบนี้ถือเป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์”
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Dom