ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 76,073 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 22.00 น. วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2550
ผู้ตัดสิน โฮเวิร์ด เวบบ์
และแล้วทีมปีศาจแดงก็ไม่ทำให้แฟนบอลกว่า 76,000 คนซึ่งเต็มความจุของ โอลด์ แทรฟฟอร์ด มากเป็นประวัติการณ์ต้องผิดหวัง ด้วยการเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไปได้อย่างสวยงาม ซึ่งเป็นการพบกันครั้งที่ 3 ในฤดูกาลนี้ของพวกเขาและแมนฯ ยูไนเต็ด ก็สามารถเก็บชัยชนะมาได้ทั้ง 3 นัด
ประตูแรกของเกมได้จาก พาร์ค จีซุง ซึ่งนี่ก็เป็นประตูแรกที่เขายิงให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย ตามด้วยประตูที่สองจาก ไมเคิล คาร์ริค ซึ่งก็เป็นประตูแรกของเขาในสีเสื้อทีมปีศาจแดงเช่นกัน และประตูที่สามเป็นของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงรักษาระยะห่างจากเชลซี ไว้ได้ 6 คะแนนเท่าเดิม
ทั้ง 2 ทีมมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 3 ตำแหน่งเท่ากัน เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ กลับมาใช้บริการ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เนมานย่า วิดิช และพอล สโคลส์ และพัก โทมัสซ์ คุสซ์แซค, เวส บราวน์ และ ไรอัน กิ๊กส์ แต่ยังคงใช้ศูนย์หน้าคู่เดิมคือ เวย์น รูนี่ย์ และเฮนริก ลาร์สสัน โดยมี หลุยส์ ซาฮา ซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บแล้วเป็นตัวสำรอง
ทางฝั่งของ มาร์ติน โอนีลล์ ก็พัก กาบอร์ คิราลี่ย์ และกลับมาเรียกใช้ โธมัส โซเรนเซ่น ซึ่งเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ รวมทั้ง โอลอฟ เมลล์เบิร์ก และ มิลาน บารอส ก็ได้กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริง ผู้จัดการทีมวิลล่าใช้ แอรอน ฮิวจ์ส ยืนเป็นกองกลางตัวรับ โดยใช้ระบบ 4-1-3-2 เพื่อพยายามป้องกันโอกาสในการบุกของทั้ง รูนี่ย์, โรนัลโด้ และลาร์สสัน
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเกมบุกใส่ทีมเยือนทันที ทั้ง แกรี่ เนวิลล์ และปาทริซ เอฟร่า ต่างก็ขึ้นไปช่วยในเกมรุกของทีมทุกครั้งที่มีโอกาส และก็เป็นกัปตันทีมปีศาจแดงที่เกือบนำประตูแรกมาให้ทีมได้ เมื่อเขาเปิดบอลอย่างสวยงามจากฝั่งขวาให้ ลาร์สสัน ยิง แต่ โซเรนเซ่น ก็ป้องกันไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ในนาทีที่ 5
อีกเพียง 6 นาทีหลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เนวิลล์ ได้เปิดบอลเข้ากลาง แต่ แกรี่ เคฮิลล์ สกัดบอลพลาดทำให้ พาร์ค จีซุง ได้จังหวะยิงเข้าประตูไป ซึ่งถือเป็นประตูแรกของเขาในทีมปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 1 – 0
จากนั้นอีกเพียง 2 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้อีก 1 ประตูจาก ไมเคิล คาร์ริค เมื่อ พาร์ค ลากบอลมาทางฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ คาร์ริค จับบอลแล้วก็วอลเล่ย์เข้าประตูไปอย่างสวยงามเป็นประตูแรกของเขาในทีมปีศาจแดงและเป็นประตูที่สองในเกมให้แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 2 – 0

มีหลายครั้งที่ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ ทำโอกาสหน้าประตูให้เสียไป แต่ทีมก็ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นไว้ได้ และก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 10 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ประตูที่ 3 และครั้งนี้ พาร์ค ก็มีส่วนร่วมในประตูอีกครั้ง เมื่อ เกวิน แม็คแคนน์ จับบอลยาวเกินไปและถูกปีกชาวเกาหลีใต้ผู้นี้ฉกบอลไปได้ และเปิดต่อให้ คาร์ริค ซึ่งเปิดบอลโค้งไปเข้าหัว โรนัลโด้ ได้โหม่งเต็มๆ เข้าประตูไปอย่างสบายๆ โรนัลโด้ เพิ่งคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนธันวาคม และนี่ก็เป็นประตูที่ 13 ของเขาในฤดูกาลนี้
จุดที่น่าผิดหวังที่สุดในช่วงครึ่งแรกก็คือจังหวะโชคไม่ดีของ รูนี่ย์ เมื่อเขาได้บอลหน้าประตูก่อนหมดเวลา 1 นาที และหลบ ริดจ์เวลล์ ไปได้แล้วเขาก็ยิงด้วยเท้าซ้าย แต่บอลหลุดออกนอกกรอบไป นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาเขาเพิ่งทำได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดีแม้จะทำประตูไม่ได้ เขาก็ยังคงมีส่วนร่วมที่มีค่าในเกมอย่างสม่ำเสมอ
ในช่วงพักครึ่ง โอนีลล์ ซึ่งมีชื่อเสียงในการกระตุ้นนักเตะ ได้พอๆ กับกลยุทธ์เครื่องเป่าผมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เริ่มทำงาน เมื่อเริ่มเกมในครึ่งหลังได้เพียง 7 นาที กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ก็ทำประตูตีไข่แตกให้แอสตัน วิลล่า ได้ เมื่อ บารอส ลากบอลผ่าน วิดิช ไปได้แล้วเปิดบอลต่อให้ อักบอนลาฮอร์ ยิงเข้ากลางประตูไปอย่างสวยงาม และนั่นก็หมายความว่าศูนย์หน้าดาวรุ่งของวิลล่าผู้นี้ทำประตูได้ทั้งใน สแตมฟอร์ด บริดจ์, แอนฟิลด์ และ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เขาลงเล่นในทีมชุดใหญ่
จากนั้น ลาร์สสัน ก็โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ทั้งในการเคลื่อนไหวและการจับบอล ในขณะที่ รูนี่ย์ ก็มีส่วนร่วมในเกมรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ตลอด ในจังหวะที่มีประสานงานกันจาก ลาร์สสัน ไปยัง คาร์ริค และต่อไปยัง สโคลส์ ปิดท้ายด้วย รูนี่ย์ แต่น่าเสียดายที่ลูกยิงจากระยะ 12 หลาของเขาก็ยังคงถูก โซเรนเซ่น ป้องกันไว้ได้อีกครั้ง
หลังจากนั้น เฟอร์กี้ก็ส่งซาฮา ลงมาเล่นและเปลี่ยน พาร์ค ออก ทำให้ รูนี่ย์ ต้องขยับมาเล่นในฝั่งซ้าย และให้ ซาฮา เล่นคู่กับ ลาร์สสัน แล้วศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสก็ได้ยิงทันที แต่ก็ถูก เคฮิลล์ สกัดบอลออกมาจากเส้นประตู
แม้จะเปลี่ยนตำแหน่ง แต่ รูนี่ย์ ก็ยังโชคไม่ดี ในนาทีที่ 75 เขาได้ยิงเต็มข้อจากกรอบเขตโทษแต่บอลก็ชนคาน จากนั้นเขาก็เข้าสกัด บารอส ทำให้ได้รับใบเหลืองไป
โซลชาร์ ถูกเปลี่ยนลงมาแทน ลาร์สสัน ในนาทีที่ 80 แต่เกมก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนักจนกระทั่งหมดเวลาไม่มีทีมใดทำประตูได้เพิ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงชนะแอสตัน วิลล่าไป 3 – 1 เก็บ 3 แต้มและยังคงนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีก ต่อไป (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
แกรี่ เนวิลล์ 2
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เนมานย่า วิดิช 15
ปาทริซ เอฟร่า 3
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 35)
ไมเคิล คาร์ริค 16 ( น. 13)
พอล สโคลส์ 18
พาร์ค จีซุง 13 ( น. 11)
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 76)
เฮนริก ลาร์สสัน 17
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
จอห์น โอเชีย 22 น. 80 ไมเคิล คาร์ริค 16
ไรอัน กิ๊กส์ 11
หลุยส์ ซาฮา 9 น. 65 พาร์ค จีซุง 13
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20 น. 80 เฮนริก ลาร์สสัน 17
แอสตัน วิลล่า
โธมัส โซเรนเซ่น 1
โอลอฟ เมลล์เบิร์ก 4
เลียม ริดจ์เวลล์ 19
แกรี่ เคฮิลล์ 21
วิลเฟรด บูม่า 16
แอรอน ฮิวจ์ส 18
อิซาห์ ออสบอร์น 27
แกเร็ธ แบร์รี่ 6 ( น. 25)
เกวิน แม็คแคนน์ 8
กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 15 ( น. 52)
มิลาน บารอส 10

สำรอง
สจวร์ต เทย์เลอร์ 13
เจลอยด์ ซามูเอล 3 น. 46 วิลเฟรด บูม่า 16
ลี เฮนดรี่ย์ 7
สตีเว่น เดวิส 12 น. 46 แอรอน ฮิวจ์ส 18
ฮวน ปาโบล อังเคล 9
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 3, ยิงตรงกรอบ 9, ยิงหลุดกรอบ 8, โดนบล็อค 9, เตะมุม 8, ฟาวล์ 8, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 1, การครองบอล 67%
แอสตัน วิลล่า ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 3, ยิงหลุดกรอบ 2, โดนบล็อค 1, เตะมุม 4, ฟาวล์ 15, ใบเหลือง 1, การครองบอล 33%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, แกรี่ เนวิลล์ 8, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เนมานย่า วิดิช 6, ปาทริซ เอฟร่า 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 8, ไมเคิล คาร์ริค 9, พอล สโคลส์ 8, พาร์ค จีซุง 8, เวย์น รูนี่ย์ 6, เฮนริก ลาร์สสัน 6, จอห์น โอเชีย (สำรอง) 6, หลุยส์ ซาฮา (สำรอง) 6, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ (สำรอง) 6
แอสตัน วิลล่า โธมัส โซเรนเซ่น 8, โอลอฟ เมลล์เบิร์ก 6, เลียม ริดจ์เวลล์ 7, แกรี่ เคฮิลล์ 5, วิลเฟรด บูม่า 5, แอรอน ฮิวจ์ส 6, อิซาห์ ออสบอร์น 6, แกเร็ธ แบร์รี่ 6, เกวิน แม็คแคนน์ 6, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 6, มิลาน บารอส 8, เจลอยด์ ซามูเอล (สำรอง) 6, สตีเว่น เดวิส (สำรอง) 7
Por